8 นิสัยที่ต้องแก้ด่วนของสาวผิวแห้งขาดน้ำไม่ไหว! คลีโอจัดเต็มความชุ่มชื้นที่ได้รางวัลแห่งปี

มีงานวิจัยบอกเอาไว้ว่าพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ เกิน 21 ครั้งจะทำให้กลายเป็นนิสัย และถ้านิสัยเหล่านั้นทำให้ผิวแห้งเกิดเป็นปัญหาริ้วรอย แต่งหน้าไม่ติดทน หน้าโทรมไม่สดใส ยังไงก็ต้องรีบแก้! คลีโอขอรวม 8 เช็คลิสต์ที่เปลี่ยนให้ผิวชุ่มชื่นดูสุขภาพดีขึ้นในเวลาไม่นาน ปรับแล้วเห็นผลแน่นอน

คลีโอเจาะลึกสารสกัด & นวัตกรรมที่ Riviera Suisse คิดค้นเพื่อผิวที่มีปัญหาริ้วรอย หย่อนคล้อยและหมองคล้ำ

บางครั้งปัญหาผิวซับซ้อนกว่าที่คิด การดูแลอาจจะแก้แค่ปัญหาเดียวคงไม่ได้ ทั้งริ้วรอย หน้าไม่กระชับ มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปีนี้คลีโอได้มีโอกาสไปเห็นถึงที่มาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ Riviera Suisse ว่ามาจากธรรมชาติในป่าลึก และได้ลองใช้ในหลายๆ ไลน์โปรดักท์ รู้สึกว่าเห็นผลกับผิวคนเอเชียได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอย หน้าหย่อนคล้อย ต้องยอมรับเลยว่าการค้นหาส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์กว่า 20 ชนิด บวกกับประสบการณ์ในด้านการผลิตยามากว่า 100 ปี ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลผิวให้ผู้หญิงทุกคนจริงๆ




Books

Matt Haig จากผู้ชายที่คิดฆ่าตัวตาย สู่นักเขียนที่เยียวยาหัวใจคนเป็นซึมเศร้าทั่วโลก

Matt Haig

Matt Haig คือเจ้าของหนังสือที่ชื่อว่า Reasons to Stay Alive แด่ผู้แหลกสลาย หนังสือที่ขายดีอันดับหนึ่งทั่วโลก เป็นเล่มที่หลายคนที่ได้อ่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หนังสือเล่มนี้ทำให้เราอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อบนโลก” หลายคนขอบคุณเขาที่เขียนเรื่องราวของตัวเขาเองจนทำให้ความคิดอยากหายไปจากโลกนั้นหมดไป แต่ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักเขียนระดับโลกที่มีแต่คนรักและขอบคุณ ตัวเขาเองก็เคยอยู่ในจุดที่เป็นโรคซึมเศร้าและมีความคิดจะฆ่าตัวตายมาก่อน ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาต่อสู้กับหัวใจตัวเองมาได้อย่างไร

Matt Haig

แมตเฮกในวัย 24 เขาอยากฆ่าตัวตาย ท่ามกลางบรรยากาศอบอวลด้วยกลิ่นทะเลที่พัดลอยมาและกลิ่นต้นสนในเดือนกันยายนที่ Ibiza เขาเดินไปที่ขอบหน้าผา และหยุดเดินห่างจากหน้าผาหนึ่งก้าว เพื่อวางแผนจะฆ่าตัวตาย ก่อนที่แมตจะเขียนหนังสือเรื่อง Reasons to Stay Alive เขาเป็นโรคซึมเศร้าและมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ในหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของเขาในการผ่านจุดที่ดำดิ่งที่สุดในชีวิต ผ่านความรู้สึกวิตกกังวล หดหู่ และมืดมนของเขา จนทำให้เขาเดินหันหลังกลับจากขอบเหว และอยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างมีคุณค่าต่อไป

แมตบอกว่า “ฉันต้องใช้เวลา 10 ปีกว่าจะคุยกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่แฟนหรือพ่อแม่ของฉันเกี่ยวกับอาการของฉัน Reasons to Stay Alive ถูกตีพิมพ์ในปี 2015 และนั่นคือตอนที่เด็กๆ รู้ว่าฉันมีอาการซึมเศร้า พวกเขาจะได้ยินฉันคุยกับนักข่าวหรือตามงานหนังสือ มุมมองทั้งหมดของฉันคือปัญหาของฉันเกิดจากการไม่สบายใจที่จะพูดถึงเรื่องนั้น ดังนั้นจึงไม่เคยมีการสนทนาใหญ่ๆ เกิดขึ้นเลย”

“ลูกๆ ของฉันรู้ว่าฉันรักชีวิต แต่บางครั้งฉันก็มีอาการเหล่านี้”

“เมื่อพูดถึงความเจ็บป่วยของตัวเอง ฉันกำลังพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่ลูกๆ ของฉันรู้ว่าฉันเป็นคนที่มีความสุข ฉันรักชีวิต แต่บางครั้งก็มีอาการทรุดลง แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในตอนนี้” บทเรียนล้ำค่าที่สุดที่แมตต้องการจะบอกก็คือ ชีวิตจะต้องเหวี่ยงไปเหมือนที่เคยทำกับเขาและยังคงทำอยู่ แต่คุณสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ เขาบอกว่า “ถ้าลูคัสหรือเพิร์ลรู้สึกเหมือนฉันตอนอายุ 24 พวกเขาจะรู้ว่ามันคืออะไร พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว และฉันก็เอาตัวรอดได้” 

หัวใจของ Reasons to Stay Alive คือข้อความที่พายุพัดผ่านไป ในหนังสือ แมตเล่าว่าเขามองไม่เห็นความหวังและอนาคตในยามที่พังทลาย เขามองเห็นเพียงความเจ็บป่วย แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆ เสมอไป เพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้านั้นมีค่ามากกว่า เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก ได้เลี้ยงดูลูกๆ ของเขาเกิดมา และสิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เป็นนักเขียน

ขอบคุณอาการป่วยที่ “ปลุกฉันให้ตื่น” และช่วยให้ฉันมีเวลาที่ดี – Matt Haig

นอกจากหนังสือ Reasons to Stay Alive แมตยังเขียนหนังสือให้กำลังใจที่ถ่ายทอดอารมณ์ และปลอบประโลมจิตใจคนอ่านอีกหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น The Midnight Library, THE COMFORT BOOK, NOTES ON A NERVOUS PLANET และเล่มอื่นๆ อีกมามาย เราก็เป็นอีกคนที่อ่านหนังสือที่เขาเขียน และหนังสือของเขาช่วยเราได้จริงๆ ใครที่ไม่มีความสุขกับการมีชีวิตอยู่ อยากให้ได้ลองอ่านหนังสือของเขาจริงๆ


Big Magic บอกว่า แล้ววันหนึ่งเราจะพบว่าไม่มีใครใส่ใจว่าเราจะทำอะไรขนาดนั้นหรอก 

อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: CLEO Thailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']