บอกเลยว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่าผีหลอก ก็คือคนนี่แหละ หลอกเก่งกว่าผีอีกบางที เชื่อว่ามีหลายคนที่เคยโดนหลอกด้วยวิธีการหายไปดื้อๆ คุยกันอยู่ดีๆ ก็หายไปซะอย่างนั้น ล่องลอยยิ่งกว่าผี แล้วไม่กลับมาคุยกันอีกเลย ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรผิดปกติ ก่อนหน้านั้นก็ยังคุยกันเหมือนเดิม ถ้าเจอแบบนี้เข้าไป รู้ไว้เลยว่าเรากำลังโดนเขาหลอกแล้ว วิธีการที่หายไปแบบดื้อๆ แบบนี้เขาเรียกว่า Ghosting และเชื่อว่าหลายคนเคยโดน หรือไม่ก็เป็นคนทำซะเอง!
ไหนๆ ก็ใกล้ถึงวันฮาโลวีนแล้ว เราต้องอย่าโดนหลอกซ้ำหลอกซ้อน วันนี้คลีโอเลยจัด 5 วิธีการรับมือกับพวกคนชอบหลอก รับมือกับ Ghosting รู้ทันก่อนที่เขาจะเท
1.อย่าไล่ตามเขาเด็ดขาด
เรารู้อยู่แก่ใจว่ายังไงเขาก็ไม่กลับมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอยู่นิ่งๆ สวยๆ ไว้ค่ะสาว อย่าพยายามหาเหตุผลให้กับการกระทำของเขาหรือหาข้อแก้ตัวให้พวกเขา ไม่ว่าเขาจะอ้างว่าแม่ป่วยหรือยุ่งกับงานหรือรู้สึกเหนื่อย อย่าไปฟังเด็ดขาดเลย วางมือถือลง เลิกทักเขาไป อย่าติดต่อเขาไป แม้ว่าคุณจะอยากรู้เหตุผลก็ตาม จำไว้ว่าการไล่ตามเขาก็เหมือนกับการพยายามจะตามเงาตลอดเวลา เหนื่อยเปล่าๆ จบค่ะไม่พูดเยอะ
2. ห้ามคุยกับเขา
วิธีการรับมือที่แสบที่สุดก็คือ ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนจริงๆ อย่าไปสนใจเขา เมินไปเลย หรือถ้าทำไม่ได้ ก็ลองยิ้มให้เขาและเดินผ่านไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างปกติสุดๆ อย่าหาคำอธิบายหรือพูดอะไรให้เยอะเลย เพราะยิ่งเราทำแบบนั้นเขาก็จะยิ่งได้ใจ แค่เราเมินเขาไป ไม่ต้องสนใจอะไรเขาทั้งนั้น แค่นี้ก็เจ็บแสบและวินที่สุดแล้ว
3. ท่องไว้ว่า “เราไม่ได้ผิดอะไร”
เมื่อเราเจ็บปวดในความสัมพันธ์ สิ่งที่เราชอบทำคือเอาแต่สงสัยว่าเราทำอะไรผิดและไล่หาข้อบกพร่องของเรา แต่นั่นทำให้เขายิ่งได้ใจ เพราะการที่เขา ghost ไม่ใช่ความผิดเราเลย ให้คิดไว้ว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งเขาโกสต์เรา ก็อย่าไปโทษตัวเองและอย่าไปเห็นค่าเขา เพราะเรามีค่ามากกว่านั้น
ความรักที่ดีจะไม่ทำให้เราต้องนั่งตั้งคำถาม ถ้าเจอความรักที่ไม่โอเค ก็ตัดใจแล้วออกมารักตัวเองนะ
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO