เมื่อเราโตขึ้น เราอาจจะไม่ได้อยากได้ความสัมพันธ์ที่หวือหวาหรือตื่นเต้น แต่เราอาจต้องการแค่ความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย เงียบสงบ และ สบายใจเท่านั้นเอง
ความสัมพันธ์ที่มาพร้อมความสบายใจช่วยเติมเต็มความสุขเราได้จริงๆ นะ เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ถึงเราจะมีสเปคสูงขนาดไหน แต่สุดท้ายเราก็คงเลือกคนที่ทำให้เราสบายใจ และ ปลอดภัยกับใจอยู่ดี” เพราะจริงๆ แล้วถ้าเราคบใครแล้วใจอึดอัด สักวันใจเราก็จะทนไม่ไหวแล้วความสัมพันธ์นั้นคงต้องจบลง
เชื่อว่ามีปัจจัยหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เราอึดอัดกับความสัมพันธ์แล้วกลับมาตั้งคำถามว่า สรุปคนนี้ใช่สำหรับเราจริงๆ มั้ย? จากการสอบถามผู้หญิงในหลายๆ ช่วงวัย ปัจจัยหลักๆ คือ ความหึงหวง ไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัว จ้องแต่จับผิด พยายามควบคุมชีวิตอีกฝ่าย ไม่ใส่ใจหรือให้ความสำคัญ อยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความเหนื่อย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยยิบย่อยอีกมากมายซึ่งแต่ละคู่ก็มีไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือความรักถ้ามีคำว่า ฝืน เข้ามาเกี่ยว มักจะไม่มีความสุข
อย่างเคสนี้เป็นเรื่องสาวคนหนึ่งที่เธอต้องเลิกกับแฟนเพราะความหึงหวง และมีอีกหลายอย่างที่ทำให้ใจเธออึดอัด … ย้อนกลับไปตอนเธอเป็นวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่หลายๆ คนก็อยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน อยากสนุกออกไปใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น “ตัวเราได้แต่มองเพื่อนไปเที่ยวกัน แล้วต้องอยู่กับเขา เพราะเขาไม่ให้ไป” เธอกล่าว นอกจากจะไม่ให้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วประเด็นที่เธอรู้สึกไม่เข้าใจเลยคือการหึงหวงเพื่อนสนิทของเธอด้วย ซึ่งเพื่อนของเธอเป็น LGBT “เขากังวลมาก ว่าเพื่อนเป็นกะเทยจริงหรอ แล้วเขาก็บอกว่าทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเราไปเที่ยวกับเพื่อน เขาห้ามเรามีเพื่อนผู้ชายทั้งๆ ที่เราก็ไม่เคยห้ามเขามีเพื่อนผู้หญิงนะ เราว่ามันต่างกันระหว่างคำว่าเป็นห่วง กับ ไม่ไว้ใจ” เธอกล่าว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นบ่อเกิดความอึดอัดในใจแต่เธอบอกว่าตอนนั้นรักเขามากเลยคิดว่าเราสามารถทนต่อไปได้ อีกอย่างเพราะเขาเป็นแฟนคนแรกด้วยเลยไม่อยากเสียไป
นอกเหนือจากความอึดอัดใจข้างต้นแล้วเธอเล่าว่าเขาบังคับเธอเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวด้วย “เขาห้ามเราใส่เสื้อแขนกุด ถ้าใส่กางเกงต้องยาวถึงตาตุ่มเท่านั้น ตอนนั้นต้องแต่งตัวเรียบร้อยมากๆ ทั้งๆ ที่ความเป็นผู้หญิงเราก็อยากแต่งตัวสวยๆ บ้าง เอาตรงๆ เหมือนเขาไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเราสวย” เธอบอกว่าตอนนั้นก็ทำตามที่เขาบอกเพราะก็อยากอยู่กับเขาและไม่อยากมีปัญหาด้วย “เวลาเราจะไปไหน ใส่ชุดอะไรต้องถ่ายให้ดู ต้องรายงานตลอด ความจริงเราอึดอัดมากนะ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหา” นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องเวลาที่เธอบอกว่าต้องแบ่งให้เขาเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่มีเวลาให้ตัวเองหรือเพื่อนเลย แต่เธอก็ฝืนมาเรื่อยๆ จนคบกันได้ 3 ปี ความอึดอัดในใจเมื่อมันสะสมกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว แล้วก็ต้องเลิกลากันไป เธอบอกว่าพอตอนนี้มองย้อนกลับไปก็คิดถึงตัวเองในตอนนั้น “ทำไมตอนนั้นเราต้องสละตัวเองขนาดนั้น”
จนเวลาผ่านไป ในที่สุดเธอก็ได้เจอกับผู้ชายที่ให้ความสบายใจและได้คบกันมายาวๆ “มันไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาเลย เขาเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลาย เราคุยกันได้ทุกเรื่องแล้วเราก็เป็นได้ตัวของตัวเองด้วย เป็นความรักที่ไปแบบเรียบๆ เรื่อยๆ แต่เราไม่เคยเบื่อกัน อย่างเราเหนื่อยจากการทำงานกลับมาก็ระบายให้เขาฟัง กอดเขา ความเหนื่อยความเครียดมันลดลง เป็นพลังบวกให้กัน ทำให้เรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้เจอเขา” เธอบอกว่าแม้ผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่สเปคของเธอในตอนแรก แต่เขาก็แสดงความจริงใจ และสามารถมอบความสบายใจให้เธอได้ สิ่งเหล่านี้มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ
ถ้าคุณได้เจอกับคนที่ทำให้คุณสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ก็อยากให้รักษาเขาไว้ หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็อยากให้ลองพูด และปรับกันจนเจอตรงกลาง เพราะถ้าเก็บเอาไว้ฝ่ายเดียวหรือเลือกที่จะเงียบ มันก็จะทำให้ความอึดอัดนั้นเก็บไว้ไม่ไหวและระเบิดออกมาในที่สุด และแนะนำให้อ่าน 32 คำแนะนำเด็ดๆ ให้คุณมีความสัมพันธ์เฮลธ์ตี้ที่สุด! เพื่อนำมาปรับใช้ เราเชื่อว่าหากมีความรักความเข้าใจและความสบายใจก็จะทำให้ความสัมพันธ์นั้นยืนยาวนานแน่นอน
อ่านบทความอื่นๆ ที่: