Single’s Inferno วาไรตี้ที่มีผู้ร่วมรายการไปติดเกาะนรกสุดร้องแรงเพื่อจับคู่ไปเดตกับใครสักคนบนเกาะสวรรค์ที่สบายกว่าสิบเท่า สองสาวที่ดูเหมือนไปพัวพันกับดราม่า ไม่รู้จะเลือกใครดีที่เราสะดุดตาสุดๆ ก็คงจะไม่พ้น ‘ซงจีอา’ และ ‘ชินจียอน’
เล่า Single’s Inferno สั้นๆ แบบสปอยล์แล้วนะ : ชินจียอน เธอเปิดตัวมาอย่างสว่างไสว ในลุคของสาวน่ารัก น่าดูแล ต่างกับซงจีอา ที่ถึงแม้เธอก็ดูน่ารักเหมือนกันแต่เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและเสน่ห์บางอย่างที่สะดุดตาหนุ่มหลายๆ คนทันที ทั้งสองมีโอเคได้ไปเดตกับหนุ่มถึงสามคน
อย่างจียอน เธอเดทกับชีฮุนก่อน แต่ทั้งสองไม่ได้คลิ๊กกันมากเท่าไหร่ เพราะพอเธอเจอกับโอจินแทคก็รู้สึกหวั่นไหวนิดๆ แต่จินแทคน่ะดันไปคลิ๊กกับสาวอีกคนอยู่น่ะสิ ทำยังไงดี ตลอดเวลามุนเซฮุน หนุ่มที่ชอบเธอมาแต่แรกก็ตามตื้อ ทำให้จียอนรู้สึกถอยห่างจากเขาไป สุดท้ายเธอก็รู้สึกผิดหรืออาจเพราะมีสาวใหม่เข้ามาในชีวิตเขาถึงสองคน ตอนนั้นแหละเรารู้สึกเลยว่าเธอเสียดายนิดหน่อย และอยากจะลองเปิดใจให้เขา โชคดีที่เซฮุนมั่นคงในรักเหลือเกิน สุดท้ายเขาก็เลือกเธอเป็นครั้งที่สาม ทำให้ทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกันจริงๆ
ส่วนจีอา ที่มีฮยอนจุง ชอบเธอมาแต่แรก ชอบเธอคนเดียว เขาไม่มองใครเลยตั้งแต่เห็นเธอจนนาทีสุดท้าย และดูเหมือนจีอาก็มีใจให้เขานิดหน่อย แม้จะมีชีฮุนที่มาชอบเธอพอๆ กับเขา ทั้งสองเหมือนทำสงครามประสาทกันตลอดเวลา จนชาฮยอนซึงเข้ามาในเกมส์ หนุ่มที่ถูกสเป็คจีอามากๆ และเหมือนเขาก็ชอบเธอแค่คนเดียวเหมือน บอกเลยว่าถ้าคนๆ นี้เข้ามาแต่แรกเกมส์จะเปลี่ยน เพราะเขาก็ลุยสุดอ่ะ สงครามจากสามฝ่ายทำให้จีอาดูอึดอัดใจนิดหน่อย แต่สุดท้ายเธอก็เลือกน้องหมาฮยอนจุงที่รอคอยเธอเสมอกลับบ้านไปด้วยกัน
แม้ว่าจะมีใครมาทำให้ใจเต้นแค่ไหน สุดท้ายหัวใจกับสมองก็ทำงานด้วยกันพบว่าหัวใจรู้สึกสบายกับอีกคนมากกว่า
ใน Single’s Inferno ทำไมความสบายใจถึงตัดสินชี้ขาดได้เหนือความต้องการ
ก็เพราะในชีวิตจริงน่ะเรามีอะไรอีกเยอะมากนอกเหนือจากความสัมพันธ์ให้ต้องจัดการ เราไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ใน Single’s Inferno นั้นเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความสนุกสนานของวาไรตี้เท่านั้น แต่ถ้าเปลี่ยนบทของจีอาเป็นตัวเราแล้ว ความตื่นเต้นที่ได้ลองเดทกับหนุ่มที่ทำให้ใจเต้นแรง หนุ่มในสเปคน่ะก็เรื่องนึงนะ แต่จะไปต่อไปขึ้นอยู่กับอะไรอีกหลายอย่าง
และความสบายใจก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ เวลาคบใครไปนานๆ แล้วมีโมเมนต์ที่เราได้รู้สึกเหมือนได้เพื่อนที่สนุกเฮฮาด้วยกันได้ ผสมไปกับความหลงใหลมันเป็นอะไรที่ใจฟูสุดๆ
‘สบายใจ’ ต่างจากแค่ ‘คุ้นเคยกันดี’
แต่บางคนแยกความรู้สึกสบายใจกับความคุ้นเคยไม่ออกนะ ก็เลยเกิดคำถามไงว่าก็สบายนะแต่ไม่แฮปปี้เลย นั่นเป็นเพราะว่ากำลังอยู่กับความคุ้นเคย แต่ไม่ได้สบายใจ ความรู้สึกคุ้นเคยเป็นสิ่งที่น่าระวัง ระวังว่าเราจะคุ้นเคยกับความไม่สบายใจ
ถึงจะรู้สึกอึดอัดใจ เจ็บปวดแค่ไหน แต่คนบางคนคุ้นเคยกับความสัมพันธ์นี้จนไม่สามารถออกไปจากมันได้ หรือแม้แต่ออกจากความสัมพันธ์ที่หนึ่งไปได้ แต่ก็ดึงดูดตัวเองกับความสัมพันธ์รูปแบบเดิมอีก ไม่จบไม่สิ้น นี่แหละการคุ้นเคยกับความไม่สบายใจ
มันอาจจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทางจิตวิทยา เด็กบางคนที่เกิดปัญหาข้างในใจจากพ่อแม่หรือใครก็ตามที่เลี้ยงดูเขามาและยังไม่ได้ถูกแก้ไข มักจะมองหารูปแบบความสัมพันธ์ลักษณะคล้ายกันเพื่อพิสูจน์ว่าจะสามารถแก้ไขมันได้กับคนที่ตัวเองเลือก และเมื่อมันล้มเหลวก็จะโทษตัวเองก่อน นำไปสู่การวนลูปรูปแบบความสัมพันธ์เดิมๆ กับคนใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
อย่ามองว่ามันคือความท้าทาย เพราะสุดท้ายตัวตนของเราจะถูกทำลายไปเรื่อยๆ ด้วยความเชื่อว่าความสัมพันธ์ไหนๆ ก็เฟลไปหมด จนกว่าจะพลิกหัวใจแล้วออกจากแพตเทิร์นนั้น แล้วมองหาความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกสบายใจจริงๆ เลิกพยายามจะพิสูจน์หรือเอาชนะแพทเทิร์นนั้นเถอะ เราไม่ได้มีเวลาตลอดไป
สบายใจรู้สึกยังไง?
เราเป็นตัวเองได้แบบที่ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะทำอะไรไม่ถูกใจใครรึเปล่า รู้สึกผ่อนคลายกับความเป็นตัวเอง บาลานซ์พอๆ กับความรู้สึกตื่นเต้นแต่รู้สึกมั่นใจว่าเราจะพูดสิ่งที่คิด เป็นคนเปิ่นๆ ได้ และเปิดใจกับคนๆ นี้ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าเราจะเป็นคนเนิร์ดกับเรื่องบางอย่าง หรือตลกโปกฮามากๆ
ไม่ถึงกับว่าไม่คิดอะไรเลย สมองว่างเปล่าและเราจะพูดหรือทำอะไรก็ได้โดยไม่นึกถึงจิตใจใครนะ แค่ไม่รู้สึกเกร็งไปหมด พูดอย่างนั้นได้ไหม ต้องขออนุญาตในทุกการกระทำก็เกินไป คนที่ไม่เคยรู้ว่าจริงๆ แล้วพอคบใครสักคนเราจะเป็นคนแบบไหนมาก่อน อาจจะยาก แต่เราจะค่อยๆ ค้นพบตัวตนของเราไประหว่างที่มีคนเข้าใจอยู่ข้างๆ
นอกเหนือจากความสบายใจ เราควรมองหาอะไรในความสัมพันธ์อีกบ้าง
แน่นอนว่าความสบายใจไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งที่เราอยากเห็นในตัวคนรักและความสัมพันธ์นั้นมีอีกมากมาย หนึ่งในนั้นอาจเป็นความมั่นใจ ทั้งที่เขามั่นใจในตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มันไดรฟ์เสน่ห์ของเขาได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงจะดูเซ็กซี่ก็ตรงนี้นี่แหละ มั่นใจนะ ไม่ใช่มั่นหน้า เราจะดูออกว่าเขารู้สึกสบายที่จะเป็นตัวเอง ไม่พยายามปกปิด และเชื่อมั่นในคุณค่าของเขาดี คนแบบนี้จะซัพพอร์ตคนรอบข้างได้สุดๆ
เชื่อถือได้ เราจะมองเขาด้วยสายตาที่ไว้วางใจในความเป็นคนพูดจริง ทำจริง เขาจะไม่ได้คบใครเล่นๆ เพราะแค่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และคบใครสักคนอย่างลึกซึ้ง และยิ่งที่ความซื่อสัตย์ในหัวใจ เขาจะไม่ฝืนหรือหลบตาโกหกเพื่อได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแต่ทำร้ายคนอื่นเด็ดขาด ยิ่งการโกหกหน้าด้านๆ นี่ไม่มี
รู้จักเห็นใจคนอื่น คนแบบนี้เขาจะคิดเผื่อไปอีกสเต็ปเลย เขารู้จักทำความเข้าใจอีกฝ่าย ทำให้เราสามารถเปิดใจให้เขาได้ไม่ยาก ใครๆ ก็อยากจะสามารถพึ่งพิงคนรักได้ แม้จะเป็นแค่ขอระบายความหนักใจในวันที่ไม่ไหวสุดๆ แล้ว คนๆ นี้เขาจะรู้จักรับฟังและไม่ติดสินหรือทำให้ใครอึดอัดใจ เผลอๆ ให้คำแนะนำให้เราเปลี่ยนมุมมองจนสบายใจขึ้น
ไม่ว่าจะใครก็ตามถ้าเจอคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์น่ะสบายใจได้เลย คือเขาจะไม่อยู่ดีๆ โวยวายเสียงดังขึ้นมาในสถานการณ์ที่ไม่ควรสุดๆ เพราะเขารู้ว่าจะจัดการความไม่พอใจ ความโกรธ หรืออารมณ์แย่ๆ ได้ยังไง เขาจะมีเหตุผลและกล้าที่จะพูดคุยตรงๆ เรื่องไหนจบแล้วคือจบจริง ที่สำคัญคือเวลาเรารู้สึกไม่พอใจอะไร ก็จะพูดกับเขาได้ ไม่มีการตัดบทเราด้วยความหงุดหงิดแน่ๆ
มองหาคนที่รู้จักให้เกียรติคนอื่นเอาไว้นะ เขาให้เกียรติเรา เราให้เกียรติเขา และคนรอบข้าง มันจะมีผลต่อทุกอย่างเลย อย่างแรกที่หลายคนกลัวคือการนอกใจ ไม่คอนเฟิร์มว่าเขาจะไม่นอกใจ แต่เขาจะไม่ปล่อยให้เรากลายเป็นยัยบื้อไม่รู้เรื่องรู้ราวส่วนเขาไปมีคนใหม่ คนที่ให้เกียรติคนอื่นจะให้เกียรติทั้งคนเก่า คนใหม่ และตัวเองด้วยการจัดการเรื่องให้จบอย่างชัดเจน แต่ถึงเขาจะไม่นอกใจ ขณะคบกันในทุกเรื่องก็จะให้เกียรติไม่ก้าวก่าย ไม่ล้ำเส้น กันและกัน
อารมณ์ขันเป็นสิ่งที่อาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่ส่วนใหญ่ในความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มันมักจะมีเปอร์เซ็นต์ความเฮลธ์ตี้กว่า เสียงหัวเราะน่ะส่งผลดีกับสุขภาพจิตอย่างแน่นอน คนที่หัวเราะเรื่องเดียวกัน จะมีมุมมองคล้ายๆ กัน การมองชีวิตที่คล้ายกันทำให้ชีวิตคู่ยืนยาว อย่างน้อยอุปสรรคชีวิตคู่ก็น้อยลงแล้วล่ะ
ความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ถึงแม้ในวันนี้จะเลือกและค้นพบแล้วว่าเจอคนที่ทำให้สบายใจและตามหามาแสนนาน แต่สุดท้ายบางคู่ก็ไปกันไม่รอด เพราะต่างเติบโตในแบบของตัวเองแล้วบางเสี้ยวในหัวใจเปลี่ยนไป ไม่เห็นต้องโทษใครเลย ระหว่างทางที่เคยเดินเคียงข้างกัน วันหนึ่งเราแค่ต้องกลับไปเดินคนเดียว และถ้ามีจังหวะค่อยเปิดโอกาสให้มีคนร่วมทางใหม่ๆ ไปเดินข้างกันไปก็ได้
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand