เชื่อว่าหลายคนเวลาแอบชอบหรือปลื้มใครก็อยากที่จะเห็นหน้าคนนั้นอยู่บ่อยๆหรือไปดักรอเจอเขา แต่ในบางครั้งก็จะมีเส้นบางๆกั้นอยู่ ระหว่างคำว่า แอบชอบ กับ โรคจิต ซึ่งการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกลัวและอึดอัดจากการกระทำต่างๆ ก็จะทำให้เรื่องที่โรแมนติกกลับกลายเป็นน่าขนลุกแทน และยิ่งไปกว่านั้นยังเข้าข่ายการเป็น Stalker ไปโดยปริยาย
สตอล์กเกอร์ (stalker) คือ คนที่มีพฤติกรรม สะกดรอยตาม ไปจนถึงการรุกล้ำ ความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ
ทางเราจึงอยากเล่าเรื่องราวฝันร้ายจาก Stalker ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับผู้คน โดยเฉพาะในผู้หญิง
เรื่องราวของ Emma Furlong
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปในปี 2010 มีหญิงสาวหน้าตาสะสวย วัย 14 เธอมีชื่อว่า Emma Furlong เธอได้ย้ายเข้าไปศึกษาที่ Andover High School ใน Bloomfield Township รัฐมิชิแกน ด้วยความที่ Emma เป็นเด็ดสาวหน้าตาดีและเฉลียวฉลาดนั่นทำให้เธอตกเป็นที่สนใจของรุ่นพี่ที่ชื่อ Jiayuan Ding ในตอนนั้นเจียหยวนมีอายุ 18 ปี ซึ่งมีอายุมากกว่าเอ็มม่า
Jiayuan Ding
เจียหยวน เป็นชาวมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เขาย้ายตามแม่มายังสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วัยเด็ก เขาถือเป็นคนที่ขยันคนหนึ่งทำให้มีผลการเรียนที่โดดเด่น อีกทั้งยังเล่นไวโอลินเก่ง แต่ทว่าสิ่งที่เขาทำกับเอ็มม่ากลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็นกว่า 8 ปี
พฤติกรรมของ Jiayuan Ding
เจียหยวนจดบันทึกตารางเรียนของเอ็มม่าไว้ ไม่ว่าเธอไปที่ไหนเขาก็จะไปที่นั่นด้วย ทั้งๆที่เอ็มม่าก็เคยพูดกับเขาว่าไม่ชอบให้เขาตามไปทุกที่แบบนี้ มีครั้งนึงที่เอ็มมาอยู่ที่ล็อกเกอร์ของเธอ “เขามาหาฉันและบอกฉันว่าฉันคือแสงแดดของเขา จากนั้นเขาก็จ้องมาที่ฉัน” เอ็มม่ากล่าว
นอกจากนี้ในตอนที่เอ็มม่าเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เขาก็มาเคาะประตู แล้วเข้ามาบอกครูว่าต้องการคุยกับฉันโดยด่วน ที่โถงทางเดิน “เขาบอกฉันว่าชีวิตของฉันตกอยู่ในอันตราย และฉันต้องไปกับเขาและออกจากโรงเรียนทันที” เอ็มมากล่าว แต่เธอก็ไม่ไปและวิ่งกลับไปยังห้องเรียนซึ่งนั่นก็ทำให้เอ็มม่ารู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกกังวล “ฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป” เอ็มม่ากล่าว
หลายวันต่อมาขณะที่เอ็มม่ากำลังรอคนมารับหลังเลิกเรียนฝรั่งเศส ตอนนี้ทั้งโรงเรียนว่างเปล่า
จู่ๆเจียหยวนก็ปรากฏตัวขึ้นและเข้ามาจับตัวเอ็มม่าไว้ไม่ยอมปล่อย โชคดีที่ครูภาษาฝรั่งเศสของเอ็มม่าเข้ามาเห็นและช่วยพลักเจียหยวนออกได้ทัน ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้ออกหนังสือเตือนเจียหยวนไม่ให้เขาเข้าใกล้เอ็มม่าอีก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจียหยวนลดความพยายามเข้าหาเอ็มม่า และยิ่งร้ายไปกว่านั้นหลังจากทางโรงเรียนเจรจากับตำรวจ ก็ลงโทษเขาโดยการพักการเรียนเพียง 5 วัน และทำหนังสือสัญญาที่เขียนด้วยลายมือตัวเองว่า จะไม่ติดต่อหรือแตะต้องนักเรียนหญิงในไฮสคูลทุกคนโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตอีก
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเอ็มม่าได้เล่าให้พ่อและแม่ของเธอฟังและครอบครัวก็เป็นห่วงเธอมาก “พวกเขาบอกเราว่าเจียหยวนกำลังวางแผนที่จะย้ายไปอยู่กับแม่ของเขาที่จีนแล้ว และเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องเขาอีก” แครอล เฟอร์ลอง แม่ของเอ็มมากล่าว
ทว่าขณะที่เอ็มม่ากำลังเรียนไฮสคูลปีสุดท้าย แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็กลับมา เธอเริ่มได้รับข้อความจากอีเมลและโพสต์ในโซเชียลมีเดียจำนวนมากซึ่งเนื้อหาก็จะเกี่ยวกับการจีบและภาพอนาจาร ซึ่งลางสังหรณ์บอกเอ็มม่าว่านี่คือ เจียหยวน
ซึ่งในความจริงแล้ว เจียหยวนไม่ได้ตามแม่ของเขากลับไปที่จีน แต่เข้าไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Rochester, New York และถึงแม้ตัวเขาจะอยู่ไกลจากเอ็มม่าแต่เขากลับไม่ยอมรามือ ส่งข้อความที่ก่อกวนใจหลายร้อยข้อความเป็นประจำ ซึ่งในเนื้อหาก็มีทั้งข้อความอนาจารและความรุนแรง ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เอ็มม่าต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจฐานข่มขู่ สะกดรอยตาม และล่วงละเมิดทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งตำรวจได้เข้าไปเตือนเขาเกี่ยวกับคดีในปี 2010 และ เขาได้เซ็นสัญญากับโรงเรียน ว่าเขาจะไม่ติดต่อกับเธออีก
และหลังจากนั้นในปี 2016 เจียหยวนก็เขียนอีเมลส่งให้พ่อของเอ็มม่า เนื้อหาข้างในเป็นข้อความอนาจาร และจินตนาการที่เขามีต่อเอ็มม่า สิ่งนี้ทำให้แม่ของเจียหยวนส่งข้อความมาขอโทษ พ่อของเอ็มม่าสำหรับพฤติกรรมของลูกชายของเธอ โดยระบุบางส่วนว่า “ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งสำหรับพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกชายที่มีต่อเอ็มม่า ฉันไม่รู้ว่าเขายังคงหมกมุ่นอยู่กับเอ็มมา ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเอ็มม่าและครอบครัวของคุณ ลูกชายของฉันไร้เดียงสามาก โปรดอดทนกับเขาและพยายามให้อภัยเขา” แม่ของเจียหยวนกล่าว
เดิมทีก็คิดว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์จะค่อยๆดีขึ้น แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือนในเวลาตี 1 เจียหยวนก็โทรมาก่อกวนเอ็มม่าอีกเธอจึงพูดว่า “คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังละเมิดคำสั่งในการห้ามติดต่อนักเรียนหญิงทุกคนโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ซึ่งเจียหยวนก็ตอบกลับเธอทันทีว่า “ I Don’t Care ”
ซึ่งครั้งนี้เอ็มม่ารู้สึกรับไม่ไหวอีกต่อไปจึงแจ้งความ ส่วนครอบครัวเอ็มม่าก็ฟ้องร้องเจียหยวนอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าก่อนการพิจารณาคดี เจียหยวนก็ถูกหมอวินิจฉัยว่าเขามีอาการทางจิตเภท ซึ่งทนายของเขาได้นำออกมาพูด ดังนั้นเจียหยวนจึงไม่ต้องเข้าคุกแต่ต้องเข้าสถานบำบัดสุขภาพจิต
แต่ผ่านไปไม่นานเหมือนอาการป่วยของเจียหยวนจะหายเร็ว เพราะเอ็มม่าเริ่มได้รับข้อความแปลกๆ ตามเดิม ซึ่งจากการที่เธอถูกรังควาน และสะกดรอยตามมานานหลายปี ทำให้สภาพจิตใจของเอ็มม่าย่ำแย่มาก จนในที่สุดเธอก็กลายเป็นโรคซึมเศร้า
แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง อาการของเธอก็ค่อยๆดีขึ้น เอ็มม่าจึงฟ้องร้องเจียหยวนอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีอาญา สิ่งนี้ทำให้เอ็มม่าเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก “เขาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา” เธอกล่าว
ปัจจุบันนี้ เอ็มม่ากลับมาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองอีกครั้งและ เธอก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งขึ้นก้าวผ่านเรื่องร้ายๆที่เข้ามาในชีวิตไปได้
จากเรื่องราวที่ได้เล่าไป ทาง Cleo ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบพบเจอเรื่องราวแย่ๆในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในรูปแบบใดก็ตาม ขอให้ทุกคนเข้มแข็งและผ่านพ้นจากเรื่องที่เจอมาได้ ขอแค่คุณยังมีความหวังและอย่ายอมแพ้ และจากเรื่องราวของเอ็มม่า จะเห็นได้ว่าคนรอบข้างก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้อาการซึมเศร้าของเอ็มม่าดีขึ้น ขอเพียงเข้าใจ ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างกัน
สามารถอ่านบทความอื่นๆของ cleo ได้ที่: