ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Women's Issues

#MeToo แฮชแท็กที่ผู้หญิงโดนละเมิดทางเพศทั้งโลก…ออกมาส่งเสียง

#MeToo แฮชเท็กละเมิดทางเพศ

ถ้าเสียงเราคนเดียวดังได้แค่ในหัวเรา มันไม่คลี่คลายความเจ็บปวด เสียงจึงต้องรวมพลังกัน #MeToo คือเสียงที่คุณจะไม่โดดเดี่ยว เมื่อโดนล่วงละเมิดทางเพศอีกต่อไป!

Tarana Burke คือผู้ที่สร้างความเคลื่อนไหวของ #MeToo คนแรกมาตั้งแต่ปี 1997 เหตุเกิดเมื่อเธอได้นั่งตรงกันข้ามกับเด็กหญิงวัย 13 ปีที่ถูกทำร้ายทางเพศ เด็กสาวคนนนั้นเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอเจอ และนั่นทำให้ทาราน่าพูดอะไรไม่ออก “ฉันไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ หรือช่วยอะไรเธอไม่ได้ในโมเมนท์นั้น ฉันพูดแม้แต่คำว่า “ฉันก็เจอมาเหมือนกัน” ไม่ได้” ทาร่าน่าเล่าให้ฟัง

Tarana Burke

และสิ่งนี้มันกวนใจเธอตั้งแต่นั้นมา จนสิบปีผ่านไปทาราน่าได้สร้าง Just Be Inc. ขึ้น เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่มีความตั้งใจช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกทำร้ายทางเพศ ความจริงเธอพยายามหาองค์กรอะไรแบบนี้มาตลอด 10 ปี แต่ไม่พบ เธอจึงสัญญากับตัวเองว่า เธอจะอยู่ตรงนั้นสำหรับใครที่โดนทำร้ายมา

และเธอตั้งชื่อความตั้งใจครั้งนี้ของเธอว่า “Me Too”

หลังจากนั้นในปี 2017 แฮชแท็ก #MeToo ก็ระเบิดขึ้นมาในชั่วข้ามคืนจากดาราสาวฮอลลีวู้ด อลิสซ่า มิลาโน่ เป็นสิ่งที่บอกว่าความพยายามของทาราน่าได้ระเบิดขึ้นแล้ว หลังจากที่เธอไม่เคยได้รับซัพพอร์ตใดๆ จากความตั้งใจนี้เลย อลิสซ่าอยากส่งเสียงนี้ของเธอออกไป เพื่อบอกโลกถึงความเลวร้ายที่ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ตัวพ่อของฮอลลีวู้ดได้ทำกับเธอ

#MeToo

อลิสซ่าบอกไว้ว่า “ถ้าคุณโดนล่วงละเมิด หรือโดนทำร้ายทางเพศใดๆ ให้เขียน “me too” ตอบทวีทนี้มา”

อลิสซ่าทวีทเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 วันนั้นวันเดียวมีทวีทแฮชแท็กนี้ต่อๆ กันไปอีกถึง 200,000 ครั้ง และพอเข้าวันที่ 16 ตุลาคม ก็มีคนทวีทเพิ่มถึง 500,000 ครั้ง และมีคนใช้แฮชแท็กนี้อีก 4.7 ล้านคน ใน 12 ล้านโพสต์ ภายใน 24 ชั่วโมงในเฟซบุ๊คด้วย

และในจำนวนผู้หญิงที่มาตอบกลับอลิสซ่า มีคนดังอย่าง เลดี้ กาก้า วีโอล่า เดวิส อีแวน ราเชล วู้ด ร่วมตอบ #MeToo อยู่ด้วย ผู้หญิงหลายๆ คนมากออกมาส่งเสียงของเธอ ทั้งนางพยาบาล ครู วิศวกร นักจัดดอกไม้ พนักงานเสิร์ฟ แม่ๆ ลูกสาว น้องสาว ภรรยา และนักเรียน บางคนออกมาเล่าความจริงที่เธอถูกข่มขืนเป็นครั้งแรก บางคนเล่าว่าเธอโดนเพื่อนร่วมงานกระทำ และก็ต้องออกจากงานไปในที่สุด

อลิสซ่าไม่ได้เซอร์ไพรส์ที่มีคนออกมาแชร์เรื่องราวที่โดนมากมายขนาดนี้ แต่เธอเซอร์ไพรส์มากกว่าที่ทุกคนกล้าเปิดเผยกลางโซเชียล มีเดียว “ทุกคนกล้าหาญมากที่เล่าเรื่องราวของเธอ สิ่งสวยงามจากเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ว่าเธอยืนขึ้นเพื่อส่งเสียงของเธอนะ แต่คือเธอยืนขึ้นด้วยกันเพื่อซัพพอร์ตกันและกัน” อลิสซ่าบอกอีกว่า “ความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในใจมันทับถมเรา จนกลายเป็นพลังได้ มันอะเมซิ่งมาก”


“ฉันถูกไล่ออกจากงานเพราะฉันไม่ได้นอนกับหัวหน้างาน ฉันโดนไล่ออกเพราะฉันไม่ยอมให้จับเนื้อตัวฉัน ไม่ยอมให้จูบโดยที่ฉันไม่โอเค และอีกมากมายหลายเรื่อง…ที่ทำให้ฉันแค่คิดก็รู้สึกแย่มากๆ แล้ว” หนึ่งในตัวอย่างข้อความจาก @Amanda Yennie อายุ 34 ปีที่ทวีทตอบอลิสซ่า

ผู้หญิงหลายๆ คนรู้สึกว่า “ฉันไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป” หลังจากที่เจอกับทวีทของอลิสซ่า และเธอรู้สึกว่า “ฉันต้องพูดอะไรออกไปแล้ว” พอได้ทวีทก็จะมีคนที่ไม่เคยรู้จักทวีทกลับให้กำลังใจกันว่า “เข้มแข็งไว้นะ” เพราะยิ่งมีผู้หญิงออกมาส่งเสียงมากเท่าไหร่ ผู้คนก็จะได้รู้ว่านี่คือปัญหา เหมือนกับเรื่องของ @fuelup250 เกรต้า

เคอร์บี้ออกมาทวีทหลังจากเหตุการณ์ที่เธอเจอผ่านไปแล้วเกือบ 40 ปี ตอนที่เกรต้าอายุ 24 ปี เธอมีหัวหน้าแก่กว่า เขาแต่งงานกับหลานของเขา และในงานปาร์ตี้คืนหนึ่งของบริษัท เกรต้าบอกว่า “เขาเข้ามาลวนลามฉัน ฉันบ่ายเบี่ยงและสัญญาว่าเดี๋ยวจะไปหาเขา แต่ฉันไม่ได้ไป เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ไล่ฉันออก” เกรต้าอยากฟ้องเขา แต่ทนายของเธอกลับบอกว่า “ข่าวของคุณจะลงทั่วทุกหนังสือพิมพ์ และคนก็จะคิดว่าเป็นความผิดของคุณเองนั่นแหละ” เกรต้าจึงต้องทำใจลืมๆ ไป แต่ถึงวันนี้เธอบอกว่า “ฉันก็ยังโกรธอยู่ดี”

ผู้ชายบางคนก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วชอบอ้างว่า “ก็นิสัยผู้ชายน่ะแหละ” เหมือนกับเรื่องของโนร่า @chrysalishealin เธอบอกว่า เธอโดนเพื่อนผู้ชายลวนลาม และพยายามข่มขืนเธอตอนที่พวกเขาเมา และเธอได้พยายามบอกเรื่องนี้กับอาจารย์ที่เป็นผู้ชาย แต่เขากลับบอกว่า “อย่าทำเป็นว่าเธอไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย ผู้ชายก็ยังเป็นผู้ชายนั่นแหละ”

ผู้หญิงหลายคนมากๆ โดนล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน และไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกฝ่ายบุคคลด้วย เพราะกลัวจะต้องเสียงานนั้นไป คลีโอเคยได้คุยกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เธอบอกว่าหัวหน้างานชอบชวนเธอไปทำงานต่างจังหวัด แล้วก็มักตีเนียนให้เธอเช็คอินนอนห้องเดียวกับเขา และแทบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว เขาก็บุกมาลวนลามและข่มขืนเธอแล้ว แต่เธอก็ต้องเก็บเงียบไว้ เพราะเขาขู่ว่าไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีงานทำ

ฮาวี่ย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ดังของฮอลลีวู้ด ที่ทำให้อลิสซ่า มิลาโน่ขึ้นแฮชแท็ก #MeToo

ถึงเขาจะเป็นตัวพ่อผู้กุมวงการฮอลลีวู้ดขนาดไหน แต่เมื่อล้ม เขาก็ล้มลงเสียงดังมาก เพราะนี่คือการล่วงละเมิดทางเพศที่เขาได้ก่อขึ้น และมีดาราสาวมากกว่า 80 คน ออกมายืนยันว่าเขาทำจริง! ฮาร์วี่ย์ถูกตัดสินให้จำคุก 23 ปีไปในที่สุด ถือเป็นชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้

Harvey Weinstein

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2017 เมื่อนิวยอร์ค ไทม์สได้รายงานว่า มีผู้หญิง 8 คนออกมาบอกว่า เจอฮาร์วี่ย์ ไวน์สตีนลวนลาม และล่วงละเมิดทางเพศแบบที่พวกเธอไม่จำยอมมานานถึง 3 ทศวรรษ และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีผู้หญิงเพิ่มอีก 13 คนที่ออกมาบอกว่า เธอก็โดนเขาล่วงละเมิดทางเพศเหมือนกัน 3 คนในนั้นบอกด้วยว่า “เขาข่มขืนเธอ!” และนั่นเป็นที่มาของทวีทในตำนานจากอลิสซ่า มิลาโน่

หลังจากนั้นเมื่อพฤษภาคม 2018 ฮาร์วี่ย์ออกมายอมมอบตัวกับตำรวจนิวยอร์ค เรื่องข้อกล่าวหาของเขาเรื่องละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง 2 คนในปี 2004 และ 2013 และเรื่องนี้ได้กลายเป็นมหาปรากฏการณ์เมื่อดาราสาวกว่า 80 คนออกมากล่าวหาฮาร์วี่ย์ด้วย

กวินเน็ธ แองเจลีน่า โจลี่ โรส แม็คโกแวน และคนอื่นๆ

ออกมากล่าวหาเขากันหมด โรส แม็คโกแวน คือเสียงหนึ่งที่แรงมากในการกล่าวหาเขา เธอบอกว่าฮาร์วี่ย์ข่มขืนเธอโดยบอกให้เธอทำออรัล เซ็กซ์ในเขาในโรงแรมที่งานเทศกาลหนัง Sundance Film Festival เมื่อปี 1997 ซึ่งตอนนั้นเธออายุ 23 ปี แองเจลีน่า โจลี่เองบอกกับ Times ว่า เธอปฏิเสธฮาร์วี่ย์ไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง “ฉันมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับฮาร์วี่ย์ ไวน์สตีนในวัยเด็กของฉัน ฉันเลยเลือกที่จะไม่ทำงานกับเขาอีก และก็ถ้าเตือนใครได้ฉันก็เตือน”

Angelina Jlie, Gwyneth Paltrow, Rose McGowan

กวินเน็ธเองบอกกับ Times ว่าตอนเธออายุ 22 ปี ก่อนที่เธอจะถ่ายทำเรื่อง Emma ฮาร์วี่ย์ได้ลวงเธอเข้าไปในห้องสวีทที่โรงแรม Peninsula Beverly Hills เพื่อจะคุยงานกัน แต่กลับเป็นว่าเขาเอามือมาแตะตัวเธอและบอกเธอว่าให้เข้าไปนวดในห้องนอนกัน “ฉันยังเด็กอยู่ตอนนั้น และฉันช็อคมาก” กวินเน็ธเล่าให้ฟัง ดาราสาวหลายๆ คนโดนเขาถามเหมือนๆ กันว่า “อยากนวดมั้ย” แต่บางคนอย่าง ซาร่าห์ แอนน์ แมสส์ เธอเล่าให้ Variety ฟังว่า เธอโดนเขากอดทั้งๆ ที่เขาเหลือแค่กางเกงใน! แอชลีย์ จัดด์เองก็เคยโดนเขาถามว่า “นวดมั้ย” หรือ “อยากดูเขาอาบน้ำ”

เหตุการณ์ที่ อลิสซ่า มิลาโน่ โดนล่วงละเมิดทางเพศ

สำหรับอลิสซ่า ดาราสาวฮอลลีวู้ดวัย 48 ปี เธอได้เคยออกมาเล่าเรื่องที่เธอโดนละเมิดทางเพศในพอดแคสท์ “Sorry Not Sorry” เธอเล่าว่าหลังจากถ่ายหนังเรื่อง “Who’s the Boss” เธอก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะลบภาพดาราเด็กในทีวีของเธอออกไป เธอเลยลองเล่นบทที่ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แล้วเธอก็ได้เข้าฉากเซ็กซ์ซีนที่ต้องแสดงความรับอย่างลึกซึ้ง ตอนนั้นเองที่เธอได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศในกองถ่าย!

อลิสซ่าไม่ได้ออกมาบอกชื่อดาราชายคนนั้น แต่เขาแก่กว่าเธอ 17 ปี และสิ่งที่เขาทำคือ “เขาเอานิ้วเข้ามาในกางเกงในฉัน และพยายามใส่เข้ามา เขาทำกับฉันแบบนั้นในขณะที่กล้องกำลังเดินอยู่” อลิสซ่าเก็บเรื่องนี้ไว้ถึง 20 ปี เธอถึงได้ออกมาเล่า

“ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญก็คือ เราควรมีแพลตฟอร์มที่จะออกมาคุยเรื่องนี้กันได้ มันเป็นเรื่องที่ยาก และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกล้าพูด บางครั้งเราก็มีความคิดว่ายอมรับมันไปเถอะ ไม่ต้องบอกโลกหรอก” แต่สิ่งที่ทำให้อลิสซ่ากล้าออกมาพูดก็คือเรื่องราวของผู้หญิงคนอื่นๆ ในโลก ที่อลิสซ่าบอกว่า “พวกเธอให้ความกล้าหาญกับฉัน ให้ฉันได้กล้าที่จะเล่าเรื่องตัวเองออกมา ฉันได้ลงลึกเข้าไปในตัวเอง และหาทางเยียวยาตัวเอง และได้เดินต่อไปเพื่อให้เรื่องนี้กระตุกคน ก็เพื่อว่าผู้หญิงรุ่นต่อๆ ไป จะได้มีพื้นที่บอกเรื่องราวของเธอ”

คลีโอขอส่งแรงซัพพอร์ตให้กับผู้หญิงทุกคนที่โดนล่วงละเมิดทางเพศทุกคน! และถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ ลองเข้าไปที่

เข้าไปที่ MeToo Movement หรือองค์กรให้ความช่วยเหลือผู้หญิงในประเทศไทย

อ่านเรื่องเพิ่มเติมได้ที่ CLEO THAILAND

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']