ยิ่งคนอื่นรวมไปถึงคนใกล้ชิด คนในครอบครัวมีความคาดหวังกับตัวเราเท่าไหร่ นี่ก็สามารถเป็นได้ทั้งแรงผลักดันและแรงกดดันได้เช่นกัน เมื่อเหนื่อยล้าและเกิดความเครียดจนทำให้ “กดดัน” ตัวเอง ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน ในเกือบทุกวัยจริงๆ ตั้งแต่วัยเด็กต้องเรียนได้เกรดดีๆ ทำคะแนนให้ได้เยอะๆ โตมาอีกเข้าสู่วัยรุ่นก็ต้องเรียนหนัก เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหรือแม้กระทั่งวัยทำงานที่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันและอีกหลายๆ เหตุการณ์ในชีวิต และต้องยอมรับเลยว่ายุคสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันยิ่งทวีคูณแรงกดดันไปอีกและนี่ไม่เป็นผลดีต่อสภาวะจิตใจของตัวคุณเลย
คุณเคยทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความคาดหวังของคนอื่นจนลืมไปว่าตัวเองต้องการอะไรไหม? เพราะถ้าความคาดหวังที่คนอื่นมีต่อเราไม่ได้ตรงกับความสุขของตัวเอง คุณเองก็จะต้องแบกรับความหวังโดยที่ไม่ได้มีความสุขจริงๆเลย
ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนดูคลิปวีดีโอที่พูดโดยคนไทย คุณ Gina Jeenafu ในหัวข้อ “High Expectation without high pressure” เธอมีแนวคิดที่ดีมากจริงๆ
แรงกดดันมีมากเกินไป ส่งผลอะไรบ้าง?
นี่เป็นภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย เพราะหากกดดันตัวเองมากจนเกินไป ก็อาจนำไปสู่โรคทางจิตเวชได้ ยิ่งเป็นคนที่เปราะบางระดับหนึ่งหรือเป็นคนที่ต้องทนกับแรงกดดันมานานแล้วยังไม่มีทางออก สิ่งนี้สามารถนำไปสู่โรคซึมเศร้า วิตกกังวล และเครียดสะสมได้
สังเกตตนเองว่าคุณได้รับแรงกดดันมากเกินไปไหม?
- เกิดความรู้สึกแง่ลบกับสิ่งที่ทำ เช่น ทำงานคุณรู้สึกไม่สนุก ไม่มีความสุขในสิ่งที่ทำ
- สังเกตเรื่องมุมมองความคิด เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก่งไม่พอ งานนี้มันยากเกินไป เริ่มคิดว่าคนอื่นคาดหวังกับเราแต่เราคงทำไม่ได้ และมีความคิดเชิงลบมาตลอด
- สังเกตร่างกาย เริ่มหายใจไม่อิ่ม ปวดหัว นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท

จัดการกับความกดดันที่เผชิญยังไงดี?
- อยากให้ลองมองย้อนกลับไปว่า เราทำสิ่งนี้เราทำไปเพื่ออะไร? ทำเพื่อให้เขาชมว่าเราเก่ง ทำเพื่อให้คนอื่นยอมรับ แล้วเราจำเป็นต้องกดดันตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ?
- ลองปลีกตัวเองจากโลกโซเชี่ยลบ้างเพราะในโลกของสื่อคุณอาจจะเสพข่าว หรือข้อมูลมากมายที่สามารถสร้างความกดดัน การเปรียบเทียบ และความคาดหวังที่ตามมา
- ลองคิดว่าเราหลงลืมอะไรไปไหม ซึ่งส่วนใหญ่สิ่งที่หลงลืมคือ “สติ” เมื่อคุณมัวแต่โฟกัสกับปัญหาจนลืมว่าที่จริงแล้วเราสามารถแก้ปัญหานั้นได้นะ ลองค่อยๆคิดไปทีละขั้น
- ระบายความกดดันที่มีให้ใครสักคนฟัง ตัวกระตุ้นที่สามารถทำให้คุณกลับมามีกำลังใจคือ การระบาย การมีที่ปรึกษาที่ดีที่คุณสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังได้และร่วมด้วยช่วยกันหาทางออกของปัญหา
ท้ายนี้อยากฝากทุกคนไว้ว่า “Don’t put too much pressure on yourself” อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปจนสุดท้ายกลายเป็น ทำร้ายตัวเองเลย รักและใจดีกับตัวเองให้มากๆ และหากคุณไม่ชอบที่ใครมาคาดหวังในตัวคุณ คุณก็ต้องเรียนรู้ในการไม่คาดหวังในตัวคนอื่นด้วย
สามารถอ่านบทความอื่นๆของ CLEO ที่: