10 ถ้อยคำที่อยากโอบกอดตัวเองจากมะเฟือง Beautiful Madness by Mafuang

10 ถ้อยคำที่อยากโอบกอดตัวเองจากมะเฟือง จากเพจ Beautiful Madness by Mafuang นักจิตบำบัดสาวที่เริ่มต้นการเรียนจิตวิทยาด้วยการอยากช่วยเหลือคนอื่น อยากเข้าใจความรู้สึกของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น จุดเริ่มต้นก่อนมาถึงตรงนี้ มะเฟืองเคยเป็นสาวนักเขียนคลีโอ ด้วยความที่ต้องสัมภาณ์พูดคุยกับผู้คนมากมาย ได้ฟังเรื่องราวในชีวิตหลากหลายรูปแบบ จนอยากมีความรู้ทางด้านจิตวิทยามาช่วยให้คำปรึกษา เธอเลยลาออกจากการเป็นนักเขียนแล้วไปเรียนต่อโททันทีที่แอลเอ

10 Quotes ความรักอินเนอร์ของ โกโก้ ชาเนล

ตำนานผู้หญิงโลกต้องยกให้เธอ โกโก้ ชาเนล และอินเนอร์เรื่องความรักก็ต้องยกให้เธอเช่นกัน! ผู้หญิงในตำนานโลกแฟชั่นที่เราจะไม่มีวันลืมเธอ โกโก้ ชาเนล ยานแม่ที่สุดที่เสกความสวยงามให้ผู้หญิงมาแบบ ยังไงก็ต้องชาเนล และเธอนี่ล่ะที่เป็นผู้หญิงมีหัวใจรักแนบแน่น ชาเนลมีความรัก และอาจเป็นรักที่ไม่สมหวัง เธอมีคนรักที่ยอมเดินจากเขามา และมีคนรักที่อยู่ดีๆ ก็จากเธอไป แต่ไม่ว่าจะยังไง ความรักของชาเนลก็สามารถแปรเปลียนไปเป็นความสวยงามในโลกแฟชั่น ให้ผู้หญิงเจิดจรัสที่สุด ทั้งหมดก็มาจากอินเนอร์อันชัดเจนของเธอนี่ล่ะ อินเนอร์ความรักของโกโก้ ชาเนลได้กลายมาเป็นพลังของผู้หญิงทั้งโลก อินสไปร์และน่าชื่นชม! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ผู้ชาย 7 อินเนอร์ กับสายตาแห่งความรัก




Self Love

เมื่อความคาดหวัง ( Expectation ) จากคนรอบข้างกลับสร้างแรงกดดันให้ตัวเอง

กดดันตัวเอง

ยิ่งคนอื่นรวมไปถึงคนใกล้ชิด คนในครอบครัวมีความคาดหวังกับตัวเราเท่าไหร่ นี่ก็สามารถเป็นได้ทั้งแรงผลักดันและแรงกดดันได้เช่นกัน เมื่อเหนื่อยล้าและเกิดความเครียดจนทำให้ “กดดัน” ตัวเอง ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน ในเกือบทุกวัยจริงๆ ตั้งแต่วัยเด็กต้องเรียนได้เกรดดีๆ ทำคะแนนให้ได้เยอะๆ โตมาอีกเข้าสู่วัยรุ่นก็ต้องเรียนหนัก เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหรือแม้กระทั่งวัยทำงานที่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันและอีกหลายๆ เหตุการณ์ในชีวิต และต้องยอมรับเลยว่ายุคสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันยิ่งทวีคูณแรงกดดันไปอีกและนี่ไม่เป็นผลดีต่อสภาวะจิตใจของตัวคุณเลย


คุณเคยทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความคาดหวังของคนอื่นจนลืมไปว่าตัวเองต้องการอะไรไหม? เพราะถ้าความคาดหวังที่คนอื่นมีต่อเราไม่ได้ตรงกับความสุขของตัวเอง คุณเองก็จะต้องแบกรับความหวังโดยที่ไม่ได้มีความสุขจริงๆเลย

ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนดูคลิปวีดีโอที่พูดโดยคนไทย คุณ Gina Jeenafu ในหัวข้อ “High Expectation without high pressure” เธอมีแนวคิดที่ดีมากจริงๆ

แรงกดดันมีมากเกินไป ส่งผลอะไรบ้าง?

นี่เป็นภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย เพราะหากกดดันตัวเองมากจนเกินไป ก็อาจนำไปสู่โรคทางจิตเวชได้ ยิ่งเป็นคนที่เปราะบางระดับหนึ่งหรือเป็นคนที่ต้องทนกับแรงกดดันมานานแล้วยังไม่มีทางออก สิ่งนี้สามารถนำไปสู่โรคซึมเศร้า วิตกกังวล และเครียดสะสมได้

สังเกตตนเองว่าคุณได้รับแรงกดดันมากเกินไปไหม?

  • เกิดความรู้สึกแง่ลบกับสิ่งที่ทำ เช่น ทำงานคุณรู้สึกไม่สนุก ไม่มีความสุขในสิ่งที่ทำ
  • สังเกตเรื่องมุมมองความคิด เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก่งไม่พอ งานนี้มันยากเกินไป เริ่มคิดว่าคนอื่นคาดหวังกับเราแต่เราคงทำไม่ได้ และมีความคิดเชิงลบมาตลอด
  • สังเกตร่างกาย เริ่มหายใจไม่อิ่ม ปวดหัว นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท

จัดการกับความกดดันที่เผชิญยังไงดี?

  • อยากให้ลองมองย้อนกลับไปว่า เราทำสิ่งนี้เราทำไปเพื่ออะไร? ทำเพื่อให้เขาชมว่าเราเก่ง ทำเพื่อให้คนอื่นยอมรับ แล้วเราจำเป็นต้องกดดันตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ?
  • ลองปลีกตัวเองจากโลกโซเชี่ยลบ้างเพราะในโลกของสื่อคุณอาจจะเสพข่าว หรือข้อมูลมากมายที่สามารถสร้างความกดดัน การเปรียบเทียบ และความคาดหวังที่ตามมา
  • ลองคิดว่าเราหลงลืมอะไรไปไหม ซึ่งส่วนใหญ่สิ่งที่หลงลืมคือ “สติ” เมื่อคุณมัวแต่โฟกัสกับปัญหาจนลืมว่าที่จริงแล้วเราสามารถแก้ปัญหานั้นได้นะ ลองค่อยๆคิดไปทีละขั้น
  • ระบายความกดดันที่มีให้ใครสักคนฟัง ตัวกระตุ้นที่สามารถทำให้คุณกลับมามีกำลังใจคือ การระบาย การมีที่ปรึกษาที่ดีที่คุณสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังได้และร่วมด้วยช่วยกันหาทางออกของปัญหา

ท้ายนี้อยากฝากทุกคนไว้ว่า “Don’t put too much pressure on yourself” อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปจนสุดท้ายกลายเป็น ทำร้ายตัวเองเลย รักและใจดีกับตัวเองให้มากๆ และหากคุณไม่ชอบที่ใครมาคาดหวังในตัวคุณ คุณก็ต้องเรียนรู้ในการไม่คาดหวังในตัวคนอื่นด้วย


สามารถอ่านบทความอื่นๆของ CLEO ที่:

More