เชื่อว่าการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ทำให้ความชอบและความเป็นตัวเองของเราค่อยๆ หายไปทีละน้อยตามเส้นทางที่เดินไปไกลขึ้นในทุกวัน เราผ่านช่วงเวลาในชีวิตมาหลายช่วง ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น เรียนจบ ทำงาน มีอะไรมากมายที่เราเผลอทำตกหล่นในระหว่างทาง ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ บางทีก็อาจเป็นเพราะเราหลงลืมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวจนสิ่งที่เราเคยชอบนั้นก็เริ่มเลืนลางตามไปด้วย แวนด้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอคือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ยังวิ่งไล่ตามหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และพยายามเก็บเศษเสี้ยวที่เธอทำหล่นหายระหว่างทาง จนวันนี้แวนด้าได้ค้นพบความชอบและตัวตนอีกด้านของเธอ นั่นก็คือ VADA CRAFTROOM ร้านที่เต็มไปด้วยงานศิลปะที่ทำด้วยใจของเธอ
ได้คุยกับ แวนด้า – เฌอณฎา วงศ์เครือศร เจ้าของร้าน VADA CRAFTRROM ร้านของเธอเป็นร้านเครื่องประดับดินปั้นที่เธอทำเองทุกชิ้น จุดเริ่มต้นของร้านวาดา มาจากความชอบที่เธอค้นพบในระหว่างที่กำลังค้นหาตัวเอง แวนด้าเรียนจบจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ หลังจากที่เธอเรียนจบ เธอไม่ได้หางานทำหรือเรียนต่อ แต่เธอใช้เวลา 1 ปี เพื่อพักผ่อนและค้นหาความชอบของตัวเองว่าจริงๆ แล้วเธอชอบอะไร และอยากทำอะไรกันแน่
“ที่ผ่านมาเราเรียนหนักตลอด เลยอยากให้เวลาตัวเองได้ค้นหาตัวเอง มันเป็นช่วงนึงที่เรา lost มากๆ เพราะเรายังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร”
ระหว่างที่เธอให้ตัวเองได้พัก เธอก็พยายามหาสิ่งที่ชอบไปด้วย แวนด้าผ่านจุดที่สูญเสียความเป็นตัวเองจนหลงทาง หาไม่เจอว่าสุดท้ายแล้วตัวเธอต้องการอะไร จนกระทั่งเธอได้นึกย้อนไปถึงสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก แวนด้าในวัยเด็กชอบปั้นดิน รักการวาดรูป และหลงใหลในงานศิลปะ ความชอบในวัยเด็กของแวนด้าที่เธอได้ย้อนเวลากลับไปตามหา ได้จุดประกายให้เธอค้นพบความเป็นตัวเองให้เธออีกครั้ง ด้วยการกลับมาทำงานศิลปะที่เธอชอบ
ในช่วงแรกแวนด้ายังไม่ได้นึกถึงการเปิดร้านเป็นธุรกิจจริงจัง เธอเริ่มจากการปั้นดินเป็น grip tok ทำแจกเพื่อนๆ และเริ่มขายให้กับคนใกล้ตัว จนมีเพื่อนๆ หลายคนเชียร์ให้เธอเปิดร้านและทำขายดู แวนด้าจึงเปิดอินสตาแกรมมขึ้นมา ปั้นดิน ถ่ายรูป และลงขาย
VADA CRAFTROOM ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นตัวเองและความชอบของลูกค้า
แวนด้าพยายามผสมผสานความเป็นแวนด้าและความเป็นตัวเองของลูกค้าให้ลงตัวมากที่สุด เครื่องประดับของร้านวาดามีทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ และสร้อยข้อเท้า แวนด้าจะเน้นออกแบบให้มีสีสันสดใส และมีความพิเศษโดดเด่นไปในแต่ละเส้น เธอบอกว่าเธอเป็นคนชอบดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้นเรื่องสีจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ทุกชิ้นที่เธอออกแบบ เธอจะดีไซน์สีให้ออกมาตอบโจทย์กับลูกค้าที่สุด
อีกความพิเศษของร้านวาดา คือเราสามารถออกแบบเครื่องประดับเองได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรดินปั้นที่เราเลือกได้เอง หรือชาร์ม จี้ต่างๆ รวมไปถึงโทนสีที่เราสามารถบอกให้แวนด้าทำให้ได้เลย “ร้านของเราสามารถให้ลูกค้าสั่งทำแบบ customize ได้เลย เราอยากลูกค้าได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไปด้วย ทั้งตัวอักษร หรือของตกแต่งอื่นๆ เราไม่อยากใส่ความเป็นตัวเองทั้งหมดลงไปในงานให้กับลูกค้า”
ในส่วนของขั้นตอนการทำ แวนด้าก็เล่าให้ฟังว่า ขั้นตอนนั้นไม่ได้มีเยอะมาก แต่เธอจะเน้นไปที่ความใส่ใจและการใส่รายละเอียดลงไปในงานทุกชิ้น เริ่มแรกสุดก็คือการดีไซน์ ขั้นตอนนี้ถือเป็นการบอกความเป็นตัวตนของร้าน VADA ได้ดีที่สุด รวมไปถึงบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าแต่ละคน ว่านี่คือสิ่งที่เธออยากมอบให้กับลูกค้า หลังจากผ่านขั้นตอนการออกแบบ เธอก็จะปั่นดินตามรูปทรงต่างๆ ที่ลูกต้องการ เช่นตัวอักษรหรือรูปหัวใจ เมื่อปั้นเสร็จแล้วเธอก็จะนำดินปั้นไปอบ จนแข็งตัวก็จะนำมาร้อยเข้ากับลูกปัดและหินแบบต่างๆ ตามโทนสีที่เธอออกแบบไว้
นอกจากเครื่องประดับดินปั้นแล้ว ร้าน VADA CRAFTROOM ก็ยังมีเสื้อที่แวนด้าเป็นคนออกแบบและวาดลายเองกับมือ ตอนนี้ที่ร้านมีทั้งหมดสองลาย คือลาย chanel club และ bougie club และลูกค้าสามารถเลือกขนาดเสื้อได้ตามชอบ มี 3 ขนาดด้วยกัน คือเสื้อครอปทรงรัดรูป เสื้อครอปทรงปล่อย และเสื้อยืด Baby Tee
“เราภูมิใจที่ดีไซน์ของเราเตะตาคนอื่น ดีไซน์ของวาดาเปลี่ยนไปตลอดเวลา มันจะไม่นิ่งอยู่กับที่ เราภูมิใจในไอเดียของเรา เราได้ใส่ความเป็นตัวเอง และใส่ความชอบของลูกค้าลงไปด้วย ในอนาคตเราอยากไม่อยากให้ร้านวาดาเป็นแค่ร้านดินปั้น เราอยากทำอะไรที่มากกว่านั้น อยากให้คนนึกถึงร้านเรา นึกถึงความเป็นวาดา”
“ร้านนี้ทำให้เราได้ค้นพบตัวเอง ไม่ให้เราลืมว่าเราเป็นใคร”
แวนด้าบอกเราว่า ร้าน VADA ช่วยทำให้เธอนั้นตามหาตัวเองจนเจอ “บางทีเราลืมบางอย่าง ลืมสิ่งที่เรามีไป เราชอบวาดรูป เราชอบปั้นดิน เราลืมเรื่องพวกนี้ไป เพราะเรามัวแต่กดดันตัวเอง วางแพลนให้ตัวเองตลอดจนลืมความชอบของตัวเอง ตอนนี้เราตื่นมาทุกวัน เรามีความสุขมาก เราได้ออกแบบ ได้คุยกับลูกค้า ได้ตื่นมาคิดทุกวันว่าเราจะทำยังไงให้ลูกค้าชอบงานของเรา ทำยังไงให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น นี่คือความสุขที่เราค้นพบ”