ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Travel, Uncategorized

เที่ยวแบบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณ เหม่อล้างใจมองแต่แม่น้ำ แพที่ River Kwai Jungle Rafts กาญจนบุรีเท่านั้น!

เที่ยวแพ River Kwai Jungle Rafts

ความดิบของธรรมชาติที่เรียบที่สุด อยู่แบบไม่มีไฟฟ้า ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ นั่งเหม่อมองแม่น้ำล้วนๆ ที่สุดแห่งแพที่ River Kwai Jungle Rafts กาญจนบุรี ที่นี่ล้างทุกอย่างออกจากใจเราได้ราบคาบ!!

ไม่คิดว่ามานอนแพแค่ 1 คืนกับความไม่มีอะไรเลยของที่นี่ จะทำให้เราติดความดิบของธรรมชาติ และโทนดาวน์ทุกสิ่งได้ถึงเพียงนี้ River Kwai Jungle Rafts อาจเป็นสถานที่ในฝันของชาวต่างชาติก็จริงนะ แต่กับสาวชาวเมืองที่ใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา โหยหาอาหารดีๆ รักในความเย็นของห้องแอร์ ดู Netflix ต้องไปคาเฟ่ ฮอปปิ้ง ใครมาที่นี่อาจต้องใช้เวลาทำใจหนักๆ เลย ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบที่เรามี มาอยู่ที่นี่ต้องรับความดิบให้ได้ มีสายน้ำเป็นเพื่อนเท่านั้น

River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts
พี่เอ๋บอกอคลีโอ และพี่กบ ขอมาปล่อยใจที่นี่กันสักคืน

ที่นี่เป็นแพลอยน้ำในกาญจนบุรีแถวๆ ไทรโยค แพ้นี้สร้างเป็นแพแรกของเมืองกาญจน์ สร้างมาตั้งแต่ปี 1976 สร้างโดยชาวฝรั่งเศส และมีชุมชนชาวมอญขับเคลื่อน เป็นแพที่เป็นที่รู้กันว่ามาที่นี่จะได้รับแต่ความดิบที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด บอกเอาไว้ชัดว่าไม่มีไฟฟ้าใช้นะ แปลว่าตอนกลางคืนเราจะอยู่ในความมืดสนิท แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ไม่มีไฟ สิ่งที่แพนี้มีให้ก็คือตะเกียงน้ำมันตั้งไว้ข้างหน้าห้อง กับตะเกียงหลอดไฟสีขาวที่มีแสงไม่มากนัก แล้วก็ไฟฉายเล็กๆ แค่นั้นเลย

River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts

ที่นี่คือหัวใจของชาวมอญในกาญจนบุรี ชาวมอญจะทำงานที่นี่ ดูแลที่นี่กัน มาถึงแพเราจะเห็นสาวมอญกับผ้าซิ่นป้ายแป้งผัดหน้าทานาคา หนุ่มมอญใส่โสร่งหน้ามนออกมาต้อนรับ แพและวิถีที่อยู่ก็คือความเป็นชาวมอญ เขาไม่ต้องใช้พัดลมหรือไฟฟ้าใดๆ ให้ความเย็นของสายน้ำปะทะกับร่างกายเราแทน ที่นี่ไม่เคยน้ำท่วม ไม่เคยกระทบกระเทือนเมื่อฝนตก ทุกสิ่งหมุนเวียนกันไปตามธรรมชาติ โค้งน้ำมากมายของแม่น้ำแควน้อย กลางหุบเขาของป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค

River Kwai Jungle Rafts

River Kwai Jungle Rafts

ที่นี่เหมือนเมืองเล็กๆ ที่หลุบเข้ามาในสายน้ำและหุบเขา แล้วจะไม่ให้ที่นี่ล้างความพิษทุกอณูออกไปจากใจเราได้ยังไง

ห้องนอนของที่นี่จะติดๆ กันทุกห้อง มีโต๊ะ และเปลแขวนอยู่หน้าห้อง กับเก้าอี้เอนหลังบนระเบียงที่อยู่บนน้ำ ใส่ชูชีพแล้วหย่อนตัวลงลอยไปกับสายน้ำได้ ชาวมอญบอกว่าไม่อันตราย สายน้ำที่นี่เหมือนจะเชี่ยวแต่จะสบาย และปลอดภัย มาถึงตอนแรกอาจจะอึ้งๆ กับความไม่มีอะไรเลยของที่นี่นะ แต่ลองได้นั่งบนเก้าอี้นอน ทิ้งความรู้สึกทุกความรู้สึกออกไป เพียงไม่นานก็จะเริ่มผ่อนคลาย และจะอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ความเงียบทำให้เราคุยกับตัวเองเสียงดังชัด เรื่องราวที่เราเก็บเอาไว้ก็จะทยอยเรียงกันออกมา

River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts
River Kwai Jungle Rafts

ใช้เวลาเดินเล่นบนแพจากต้นแพไปท้ายแพ เดินเท้าเปล่าช้าๆ ไปเรื่อยๆ หามุมนั่งที่ชอบ คราวนี้ความเจ็บปวด ความเครียด จะเคลื่อนตัวออกไปทีละนิด พอใจเริ่มคลี่คลายขึ้นแล้ว ใส่ชูชีพ หย่อนตัวลงในแม่น้ำเย็นๆ ให้ลอยไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปไกล จากต้นแพไปท้ายแพก็พอ หรือแช่ตัวเฉยๆ มองป่าสีเขียวจัดข้างๆ

แม่น้ำกำลังมอบความบริสุทธิ์ที่สุด หมดจดที่สุดล้างทุกสิ่งออกไปจากใจให้เราวว ความเย็นฉ่ำจะกลายมาเป็นความชุ่มชื่นใจ เราจะเริ่มกลับเข้าไปสู่ออริจินัลของหัวใจ ประกายในแววตาจะมาพร้อมกับประกายของสายน้ำ

นอนเล่นบนเปลต่อ เขียนข้อความที่เอ่อล้นออกมา เรากำลังดูใจตัวเองอย่างแท้จริง แรงสั่นไหวของเปล ข้อความที่ไม่เคยบอกใครได้ ถ้ามีลมพัดมาสักวูบ ก็จะพัดถ้อยคำเหล่านี้ให้หลุดลอยไป

หัวใจเราเริ่มเป็นอิสระแล้ว

พอเริ่มเย็นชาวมอญจะเชิญเราไปกินอาหาร เขาจัดมาให้ เราไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น เลือกนั่งโต๊ะที่ได้เหม่อมองสายน้ำต่อ เรากำลังนั่งอยู่กับแสงเทียน อาหารอร่อยรสมือชาวมอญ ถ้ามีผ้าซิ่นใส่ผ้าซิ่นให้รับบรรยากาศ ผิวกายจะเย็นขึ้น สดชื่นขึ้น เป็นเวลากินอาหารที่มีความสุข กับรอยยิ้มของชาวมอญที่จะเดินมาถามว่า “โอเคมั้ย เติมอะไรอีกมั้ย”

พวกเขาต้อนรับเราก่อนหลับไปด้วยระบำมอญ การแสดงอันซื่อตรง น่ารักของหนุ่มสาวมอญ ที่เมื่อกลางวันจะคอยดูแลเรา แต่พอกลางคืนเขามาสร้างความเพลิดเพลินให้เราต่อ ลีลาของหนุ่มมอญที่นี่ไม่ธรรมดา จังหวะเราใจ กับการเต้นที่ไม่มีกั๊ก เห็นถึงหัวใจและวัฒนธรรมอันน่ารักของเขา

อยู่ที่นี่จะง่วงเร็ว สามทุ่มก็รู้สึกอยากนอนแล้ว เป็นการนอนที่ไม่ต้องใช้อะไรช่วย ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์มาเช็คข้อความใดๆ แค่เอามุ้งลง แล้วเลื้อยเข้าไปในมุ้ง อากาศเย็นสบาย เสียงน้ำไหลเรื่อยตลอด หลับไปได้ง่ายๆ และเป็นสุข ก่อนนอนลองมองหาดาวก่อนนะ บางคืนถ้าเมฆไม่มาบัง ดาวที่นี่สดใสเต็มท้องฟ้า แจ่มเข้าตาจนยากจะหันมองไปทางอื่น แต่ถ้าไม่มีดาว ความมืดกับเสียงน้ำ จะทำให้เรารู้สึกโรแมนติก และยินดีกับหัวใจที่ตอนนี้อิสระแล้ว

ที่นี่ยังมีหมู่บ้านมอญ วัดมอญ โรงเรียนมอญ ที่เขาจะพาเราไปดู เราจะได้เดินใต้ทางเดินที่เขาบอกว่า “ตามหลักมอญทางเดินนี้จะทอดยาวไปทั้งหมู่บ้าน เป็นตัวเชื่อมต่อกับผู้คนและกับโลกภายนอก” คนมอญที่นี่ไม่มีไฟฟ้าเช่นกัน มีเพียงเครื่องปั่นไฟไว้ใช้กับสิ่งจำเป็นเท่านั้น เขามีความสุขกันง่ายๆ แวะคุยกัน หัวเราะกัน และจะเห็นวงเล่นสะบ้าที่เขาบอกว่า เป็นความเอนเตอร์เทนเดียวของพวกเขา

ศิลปะของมอญสวยสง่า และน่ารักจิ้มลิ้ม สาวมอญสวยทุกคน หนุ่มมอญก็สุภาพ ใจดี เขาบอกว่าคนมอญที่นี่จะรักที่นี่มาก เขาโตที่นี่ อาจมีออกไปเรียนหนังสือที่อื่นบ้าง แต่ก็จะกลับมาอยู่และดูแลที่นี่กัน การไปRiver Kwai Jungle Rafts ของเราเลยเหมือนไปต่อยอดชุมชนให้พวกเขา เขาตื่นเต้นที่จะได้ดูแลพวกเรา อย่าลืมให้สาวมอญสอนพันผ้าซิ่น และให้เขาป้ายทานาคาเป็นรูปต่างๆ บนแก้มให้เรานะ

แค่คืนเดียวจริงๆ ที่เราจะสดใหม่ออกไป ความไม่มีอะไรของที่นี่ แต่เราจะรู้สึกเหมือนเรามีทุกอย่าง เราจะว่าง ไม่กังวล สุขสงบเรียบๆ แล้วสิ่งนั้นจะติดตัวเราออกไป ให้เราใช้ชีวิตกับโลกที่อยู่ได้นุ่มนวลขึ้น

การเดินทางมาที่นี่มีวิธีเดียว คือเราต้องมานั่งเรือโดยสารที่ท่าเรือพุตะเคียน เพราะโรงแรมไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยถนน เมื่อจองห้องพักพร้อมแพคเกจของที่โรงแรมแล้ว นอกจากอาหารเย็น อาหารเช้า แล้วยังรวมเรือที่จะพาเรามาถึงที่นี่ไว้ด้วย หากขับรถมาจากกรุงเทพฯ จอดรถไว้ที่ท่าเรือพุตะเคียน ซึ่งเป็นท่าเรือของโรงแรมในเครือเดียวกับ River Kwai Jungle Raft ทั้งหมด บริการเรือรับ-ส่งจากท่าเรือพุตะเคียน ไปโรงแรม ขาเข้าให้บริการทุกๆ 1 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 14.00 – 18.00 น. เรือขาออกจากโรงแรมให้บริการทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 08.00 – 12.00 น.

เช็คราคาห้องพัก พร้อมแพคเกจสำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่ River Kwai Jungle Rafts ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.riverkwaijunglerafts.com/
Email  : [email protected]
โทรศัพท์  : 02 642 5497

อ่านเรื่องอื่นต่อได้ที่ slow city นครพนม

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']